
อุลกมณี มีหลายชื่อที่เรียกหากัน อุกกามณี แก้วข้าว สะเก็ดดาว เหล็กไหลต่างดาว คดปลวก พลอยจันทรคราส หยดน้ำฟ้า(ตามรูปร่างที่ปรากฏ) สะเก็ดดาว หรืออุลกมณี ตรงกับคำว่า "tektite" ในภาษาอังกฤษ โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า Tektos ในภาษากรีก แปลว่า หลอมละลาย อุลกมณีที่พบจะมีเนื้อแก้ว ส่วนใหญ่สีดำทึบคล้ายนิล บางชิ้นมีเนื้อในสีน้ำตาลใส ผิวของอุลกมณีจะเป็นหลุมเล็ก ๆ โดยรอบ รูปลักษณ์สัณฐานของอุลกมณีไม่แน่นอน อาจเป็นก้อนกลม ยาวแบน แท่งกลมยาว คนไทยบางท่านเชื่อว่าสามารถแบ่งอุลกมณี เป็นชนิดต่างๆตามรูปร่าง เช่น ตัวผู้(รูปทรงเป็นแท่งคล้ายลึงค์) หรือตัวเมีย(รูปทรงกลม) มนุษย์เรารู้จักอุลกมณีมานานแล้ว โดยเชื่อกันว่าเป็นสะเก็ดดาวจากนอกโลก ที่ตกเข้ามายังพื้นผิวโลก
แต่ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาและทราบว่าแท้จริงแล้ว อุลกมณี หรือ tektite เป็นทรายที่เกิดบนโลกที่เกิดการหลอมละลายจากความร้อนจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ขณะที่ทรายหลอมละลายจะกระเซ็นขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วเกิดการเย็นและแข็งตัวกลางอากาศ ก่อนจะตกกลับคืนสู่พื้นดิน จึงทำให้เกิดรูปร่างหลากหลายแบบ

คุณสมบัติของอุลกมณี อุลกมณี เป็นวัตถุที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ มีพลังงานสะสมอยู่มหาศาล จึงอาจเรียกได้ว่ามีฤทธิ์ในตัว ซึ่งจะขอกล่าวว่า ฤิทธิ์อุลกมณีนั้นไม่ธรรมดา เพราะพลังงานที่สะสมอยู่อย่างมหาศาลในตัว เมื่อนำมาประกอบด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง จึงทำให้มันสามารถสลายพลังงานเชิงลบ (สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย)ไปได้ และเนื่องจากเป็นวัตถุที่มีสีดำสนิท จึงทำให้มันสามารถ ดึงดูดพลังที่ดีๆเข้ามา อีกทั้งยังส่งเสริม(ให้พลัง)เชิงบวก แก่วัตถุอื่นๆให้มีพลังสูงขึ้นได้อีกด้วย นับเป็นวัตถุที่เหนือกว่าวัตถุอื่นใดในโลกที่บันดาลสิ่งดีๆแก่ผู้ครอบครองได้ และยังส่งเสริมให้ชีวิตเจริญขึ้น เสริมเสน่ห์ชักจูงให้ผู้อื่นรักใคร่นับถือ เรียกว่ากลับร้ายกลายเป็นดี ทวีลาภ เลยทีเดียว อุลกมณี มีพลังที่ครอบคลุม หลายรูปแบบ กล่าวคือเป็นแหล่งของพลัง กระตุ้นเตือนจิตสำนึกก่อให้เกิดความจดจำที่แม่นยำ ลึกซึ้ง หากนำมาใช้ตอนปฏิบัติทำสมาธิจิต การพกพาไว้กับตัวจะเป็นการเพิ่มพลังแก่ออร่ารอบตัว ทำให้ออร่าเข้มเข็ง มั่นคง ปกป้องคุ้มครอง และขับไล่ สิ่งที่มารุกราน ขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ (วิญญาณแฝงหรือพลังแฝง) คนไทยเรามีความเชื่อว่าการเก็บสะเก็ดดาว(อุลกมณี)ไว้ในบ้าน จะช่วยป้องกันอัคคีภัย และภัยพิบัติต่าง ๆ ได้